SCILUTION

บทความ

ชี้ \"30บ.รักษาทุกโรค\"เป็นนโยบายดีงามที่สุดเท่าที่ประเทศนี้มีมา!

10-06-2562 16:10:35น.

ขออนุญาติ คุณหมอ ลงบทความรู้นะครับ


หมอDrama-addict ชี้ "30บ.รักษาทุกโรค"เป็นนโยบายดีงามที่สุดเท่าที่ประเทศนี้มีมา!

วันที่ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09:30:33 น.




จากกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประเด็นนโยบายด้านสาธารณสุขในอดีตว่า "ทุกวันนี้ทั้งแพทย์ชนบท หมอสาธารณสุข และอีกหลายหมอ วุ่นวายกันไปหมด ส่วนเป็นเพราะเงินงบประมาณในส่วนนี้มีมากเกินไปหรือไม่ จึงทำให้เกิดปัญหานั้น ที่ผ่านมารัฐบาลไม่สนใจ และไม่ใส่ใจในเรื่องของงบประมาณสาธารณสุข ไปทำโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นโครงการประชานิยม ประชาชนได้รับประโยชน์ แต่อยากถามว่าเรามีความพร้อมหรือไม่ เฉลี่ยเงินค่ารักษารายหัวอยู่ที่คนละ 2,900 บาท แล้วมันเพียงพอหรือไม่ โรงพยาบาลรับไม่ไหวโรงพยาบาลก็จะเจ๊ง"

จากประเด็นดังกล่าว นพ.วิทวัส ศิริประชัย ผอ.โรงพยาบาลเกาะลันตา หรือแอดมินเพจชื่อดังที่มีผู้ติดตามกว่า 7 แสนคน อย่าง "Drama-addict" ได้แสดงความห็นในฐานะคนในแวดวงสาธารณสุข ระบุว่า

http://www.matichon.co.th/online/2015/07/14358887851435891069l.jpg
ถ้าจะเริ่มเกี่ยวกับประเด็น "30บาท" คงต้องเท้าความไปถึงผู้ริเริ่มโครงการนี้ คือนพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ หมอสงวนคนนี้เนี่ยเขาเรียนจบรามา แล้วมาทำงานรักษาคนไข้ที่ชนบท หมอสงวนกับเพื่อนๆ อีกหลายคนเล็งเห็นปัญหาในยุคก่อนที่เมืองไทยจะมีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าว่า คนไทยในยุคนั้นยังเข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์ ยิ่งเป็นชาวบ้านที่ยากจนยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าป่วยเป็นโรคที่ร้ายแรง เช่น มะเร็งขึ้นมา บางคนถึงกับต้องขายวัวขายควาย ขายไร่นา เพื่อหาเงินมารักษาโรค จนหมดเนื้อหมดตัวล้มละลายกันมากมาย

หมอสงวนเลยศึกษาระบบประกันสุขภาพของเกาหลี และ ญี่ปุ่น (ซึ่งสองประเทศนี้ มีระบบคล้ายๆ กับประกันสุขภาพในยุคปัจจุบันของบ้านเรามาเกือบ 30-40 ปี แล้ว แต่ไม่ได้เหมือนกับสามสิบบาทของบ้านเราซะทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติของญี่ปุ่น จะช่วยออกค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคให้กับประชาชนที่อยู่ในระบบนี้ 30% อะไรประมาณนั้น)

http://www.matichon.co.th/online/2015/07/14358887851435893113l.jpg

หมอสงวนกับเพื่อนๆ ก็เลยช่วยกันร่างแนวคิดระบบ "30บาทรักษาทุกโรค"แล้วหอบไปเสนอนักการเมืองเพื่อผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นจริง เคยอ่านบทความบอกว่ามีหลายๆ คนส่ายหัวให้กับแนวคิดของหมอสงวน บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก นั่นมันญี่ปุ่น เกาหลี ที่นี่เมืองไทยนะ 

หมอสงวนก็บอกว่า แต่ญี่ปุ่น เกาหลี เขาเริ่มระบบนี้ตั้งแต่ สามสิบสี่สิบปีก่อนนะ ถ้าคุณพูดแบบนี้แปลว่าเมืองไทยทุกวันนี้ (เมื่อสิบปีก่อน) มันเจริญสู้ญี่ปุ่นเมื่อสามสิบปีก่อนไม่ได้เลยหรือ


หลังจากหอบโครงการไปนำเสนอนักการเมืองหลายๆ คน สุดท้ายหมอสงวนก็ได้มาเจอกับทักษิณ และโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ก็กลายเป็นความจริงในที่สุด


หมอสงวนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อปี 2551 ขอให้หมอสงวนไปสู่สุคติครับ

ย้อนกลับมาพูดเรื่องสามสิบบาทกันต่อ อย่างที่บอกว่าระบบนี้มันไม่ได้มีในเมืองไทยประเทศเดียว ประเทศอื่นๆ เขาก็ทำกันเยอะแยะ รายละเอียดปลีกย่อยจะต่างกันออกไปบ้าง 

แต่ประเด็นหลักๆ ที่มีร่วมกันคือระบบประกันสุขภาพพวกนี้ จะมีบทบาทเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ไม่ใช่ภาระที่รัฐบาลต้องเอางบประมาณไปจ่ายตามล้างตามเช็ดไม่มีหยุดหย่อน

ทำไมถึงเป็นการลงทุน เพราะแนวคิดของระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าคือ ประชาชนทุกคนมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ บางคนค่าใช้จ่ายสูงเกินจะรักษาก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคภัยจนไม่เป็นอันทำงานทำการ


แต่ถ้ารัฐเข้าไปช่วยเหลือตรงนี้เช่นร่วมจ่ายบางส่วนหรือจ่ายค่ารักษาให้ทั้งหมดประชาชนก็จะลดภาระค่าใช้จ่ายมีเงินออมเหลือ สุขภาพแข็งแรง มีเวลาทำมาหาแดกสร้างรายได้ให้ประเทศชาติมากขึ้น

ถ้าคุณเข้าใจตรงจุดนี้ คุณจะรู้เลยว่าไอ้โครงการนี้มันไม่ใช่ประชานิยม
แต่มันคือสิ่งที่เรียกว่า รัฐสวัสดิการ

และข้อเท็จจริงทางสถิติก็เป็นตัวยืนยันแนวคิดนี้ได้เป็นอย่างดี เพียงหนึ่งปี หลังจากประกาศนโยบาย30บาท ประชาชนชาวไทยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ พุ่งปรี๊ดเป็น 75% และสุงขึ้นๆๆๆ เรื่อยจนเกือบจะ 100% แล้วในปัจจุบัน 


แล้วลองเปรียบเทียบกับกราฟสถิติประชาชนที่เข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์ในประเทศต่างๆเทียบกับประเทศไทยดูทุกวันนี้เมืองไทยมีคนที่เข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์ แค่ 0.4-1.4 % เท่านั้น น้อยติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว

ดูกราฟอันถัดมา เป็นกราฟสถิติของคนไทย ที่ล้มละลาย ขายบ้านขายช่อง ขายควาย ขายเรือกสวนไร่นาเพื่อหาเงินมารักษาโรค จะเห็นว่าหลังจากประกาศนโยบายสามสิบบาทปุ๊บ คนที่ล้มละลายขายวัวขายควายลดลงฮวบๆอย่างชัดเจน และตัวเลขของคนไทยที่ยากจนเพราะหมดเงินกับการรักษาโรคก็ลดลงฮวบๆ เช่นเดียวกัน



เพราะนโยบายนี้ คนไทยทุกวันนี้จึงไม่ต้องขายวัวขายควาย ขายทรัพย์สิน มรดกพ่อแม่เพื่อรักษาโรคอีกต่อไป ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในเรื่องสุขภาพก็ลดลง เอาเงินไปทำมาหากินอย่างอื่นได้อีกเยอะ


แต่ถ้าพ่อแม่พี่น้องได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับระบบประกันสุขภาพบ้างก็คงจะเคยได้ยินข่าวประมาณว่ารพ.จะล้มละลายอยู่แล้วอยู่เนืองๆ

อันนี้ก็เป็นเรื่องจริงที่ปฎิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าทุกวันนี้การบริหารและจัดสรรงบสำหรับระบบประกันสุขภาพนี้มันยังมีปัญหาอยู่ไอ้เรื่องรพ.ติดตัวแดงจะล้มละลายนี่มันก็มีมาตั้งแต่ยุคประกาศนโยบายใหม่ๆแล้วแต่ก็มีการแก้ไขปัญหานี้มาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ปัญหา รพ. ติดตัวแดงไม่มีเงินจ่ายค่ายา ไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างอะไรพวกนี้ก็ลดน้อยลงไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังคงต้องปรับปรุงกันต่อไปเรื่อยๆ

งบประมาณที่รัฐต้องจ่ายให้กับระบบนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากหลายปัจจัย เช่น เรื่องเงินเฟ้อ จากสมัยนู้นตอนเริ่มระบบนี้ใหม่ๆ มาจนถึงทุกวันนี้  งบรายหัวเพิ่มมาสองเท่าจะสามเท่าอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ได้มาจากการเพิ่มงบรายหัว เช่น ประชาชนเข้าถึงวัคซีนสารพัดโรคมากขึ้น เข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็ง และการรักษาโรคมะเร็งมากขึ้น มันคุ้มเกินคุ้มจริงๆ ครับ

ประเด็นคือ นโยบายแจ่มๆนี้ อาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความโดดเด่นและดีงามของนโยบายนี้จางหายไปแต่ประการใด เหมือนคุณเห็นต้นไม้ต้นนึง มีบางกิ่ง บางใบที่มันหงิกงอไม่สวยงามเหมือนกิ่งอื่นใบอื่น เป็นคุณ คุณจะแก้ปัญหายังไง

เอาขวานมาจามให้โค่นทั้งต้นกันไปเลย หรือเล็มเอาใบที่หงิกงอออกแล้วบำรุงมันให้งอกใบใหม่ที่อุดมสมบูรณ์กว่าเดิม


อาจกล่าวได้ว่า "นโยบาย30บาทรักษาทุกโรค" นี่แหละ ที่เป็นนโยบายที่ดีงามที่สุดเท่าที่ประเทศนี้เคยมีมาก็ว่าได้ ไม่ว่าคุณจะไปประเทศไหนก็ตาม ไม่มีทางเจอแบบประเทศไทยหรอกนะ ที่รักษามะเร็งฟรี รักษาโรคหัวใจ ฟรี ผ่าตัดสารพัดโรคฟรี 

ขนาดต่างประเทศไม่รู้ตั้งกี่ประเทศ เขาเห็นนโยบายนี้ในบ้านเรายังแตกตื่นเลยว่าประเทศจนๆ ประเทศนี้ มันสามารถดูแลสุขภาพของคนทั้งประเทศในงบแค่นี้ได้ยังไง จนแห่กันมาดูงานที่บ้านเรากันตั้งเยอะแยะ อย่าให้มันจบแค่นี้เลยครับ ให้มันเจริญงอกงามต่อไปเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แผ่ร่มเงาให้คนไทยทั้งประเทศได้เถอะ

ก็หวังว่าทุกคนอ่านที่จ่าเล่าแล้วจะเข้าใจที่มาที่ไปของระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้ามากขึ้นและช่วยๆกันปกป้องให้นโยบายนี้อยู่คู่กับคนไทยไปนานๆและพัฒนาให้มันดีขึ้นเรื่อยๆนะครับ

ปล.คนที่จะหยิบนโยบายนี้มาด่าหรือเอามาวิจารณ์อะไรเนี่ยขอเลยนะอย่าด่าเพราะมันเป็นนโยบายที่เกิดขึ้นใน"ยุคแม้ว" มันควรจะก้าวข้ามการเมืองไปเป็นชาติแล้ว